ศธ.เปิดกว้างให้สิทธินักเรียนไว้ผมตามใจ

ที่มา  :  เดลินิวส์  วันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 เวลา 11:25 น.

วันนี้(15พ.ค.)นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้เสนอร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับความประพฤติ การแต่งกายและแบบทรงผมของนักเรียนและนักศึกษา ให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีรมว.ศึกษาธิการ พิจารณาเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความเห็นชอบนั้น รมว.ศึกษาธิการ ได้พิจารณาแล้วเห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ซึ่งยึดตามกฎกระทรวงฉบับเดิม พ.ศ.2518 เพียงแต่ให้ตัดคำว่า “ซอยผม” ออกจากข้อ 2 ในหมวด 3 ที่กำหนดว่า นักเรียนหญิงให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย ห้ามนักเรียน ดัดผม ซอยผม ทำสีผม ไว้หนวดเครา หรือทำการอื่นใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน และตัดข้อความว่า “โรงเรียนอาจกำหนดแบบทรงผมของนักเรียนได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้ โดยให้รับฟังความคิดเห็นหรือทำประชาพิจารณ์จากนักเรียนและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา” ออกไปด้วย 

“จากการตัดบางข้อความของร่างกฎกระทรวงออกไปดังกล่าว ส่งผลให้กฎกระทรวงเปิดกว้างอย่างมาก และจะทำให้โรงเรียนไม่มีอำนาจกำหนดรายละเอียดได้ เช่น บางโรงเรียนจะกำหนดว่านักเรียนหญิงไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบให้เรียบร้อยโดยถักเปียเดี่ยวเท่านั้น หรือ กรณีผมที่ไว้ยาวไม่ให้ยาวเลยตีนผม 8 นิ้ว หรือ การถักเปียให้ถักเปียธรรมดาห้ามถักเปียตะขาบ เป็นต้น ต่อไปข้อกำหนดเหล่านี้ก็จะไม่สามารถกำหนดได้เพราะโรงเรียนไม่มีอำนาจ”ปลัดกระทรวงศึกษาธิการกล่าวและว่า  ถึงแม้จะมีการชี้แจงถึงข้อจำกัดกรณีตัดบางข้อความออกไป แต่นายพงศ์เทพก็ยืนยันว่าต้องตัด ซึ่งก็สอดคล้องกับกรรมการสิทธิมนุษยชนที่ระบุว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิของเด็กจะทำอะไรก็แต่ขอให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย”ปลัดกระทรวงศึกษาธิการกล่าว

ทั้งนี้รมว.ศึกษาธิการได้ลงนามเพื่อนำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเสนอต่อครม.แล้ว น่าจะเข้าพิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า  จากนั้นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาและประกาศใช้ต่อไป ซึ่งยอมรับว่าไม่ทันเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2556  อย่างไรก็ตามได้รับแจ้งว่ามีบางโรงเรียนที่สั่งให้นักเรียนกลับไปตัดผมใหม่ซึ่งเป็นการกระทำที่นอกเหนืออำนาจที่ระบุไว้ในร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ ซึ่งนายพงศ์เทพได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ไปทำความเข้าใจกับทางโรงเรียนแล้ว

ต้องการบอกว่า !!!