ที่มา : คมชัดลึก 12 มค. 2556
ครม.โหดไฟเขียวผ่านร่างกฎก.พ.ให้ขรก.ที่ป่วยจนทำงานเกิน 60 วันให้ออกจากราชการ
8 ม.ค. 55 นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วย การสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการกรณีเจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ราชการของตนได้โดยสม่ำเสมอ พ.ศ. …. ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ รองโฆษกฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎ ก.พ. ดังกล่าว ระบุว่า
1. กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุ มีอำนาจพิจารณาดำเนินการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทนกรณีเจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ราชการของตนได้โดยสม่ำเสมอ กรณีปรากฏว่า มีวันลาป่วยรวมกัน 1 ปีงบประมาณเกิน 120 วันทำการ หรือมีวันลาป่วยรวมกันเกิน 60 วันทำการในแต่ละปีงบประมาณติดต่อกัน 2 ปีงบประมาณ ทั้งนี้ ไม่รวมกรณีเจ็บป่วยเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่ และกรณีต้องเข้าบำบัดรักษาทางสุขภาพจิตตามกฎหมายว่าด้วยสุขภาพจิตโดยมีเวลารวมกันเกิน 120 วัน
2. ก ำหนดให้ผู้บังคับบัญชาส่งตัวผู้นั้นไปรับการตรวจจากสถานพยาบาลของรัฐ เพื่อนำผลการตรวจและความเห็นของแพทย์มาประกอบการพิจารณา กรณีเห็นว่า ผู้นั้นต้องลาป่วยต่อไปอีกจนไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ผู้นั้นออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทน หรือเห็นควรให้พักรักษาตัวต่อไปอีก แต่ต้องไม่เกิน 60 วันทำการ และเมื่อครบกำหนดให้ผู้นั้นไปรับการตรวจจากสถานพยาบาลของรัฐอีกครั้งหนึ่ง ถ้าผู้นั้นยังต้องรักษาตัวต่อไปอีกให้สั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทน
3. กำหนดให้ผู้บังคับบัญชามีอำนาจสั่ง ให้ส่งตัวผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น เข้ารับการตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการ กรณีที่สถานพยาบาลของรัฐ เห็นว่า ผู้นั้นต้องเข้ารับการบำบัดรักษาเป็นเวลาเกิน 120 วัน ให้สั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทน
ขยายโครงการ”ร้านถูกใจ”อีก 3 เดือน
นายภักดีหาญส์ แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ ดังนี้ 1. การขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการโชห่วยช่วยชาติ “ร้านถูกใจ” จากกรอบระยะเวลาเดิมซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2555 ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2556 โดยใช้เงินงบประมาณคงเหลือจากวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติไว้ เนื่องจากโครงการโชห่วยช่วยชาติ “ร้านถูกใจ” เป็นโครงการฯ ช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยในชนบทที่ห่างไกลและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนทั่วประเทศ 2. แนวทางการดำเนินโครงการฯ ในระยะต่อไป โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ร้านถูกใจสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน การใช้งบประมาณอย่างประหยัดเท่าที่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินโครงการฯ
เคาะมอบอำนาจให้”พงศ์เทพ”สู้คดีปกครองแทนนายกฯ
นายภักดีหาญส์ แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 7/2556 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ในคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และมอบอำนาจตามกฎหมาย เพิ่มเติม ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ซึ่งให้นายพงศ์เทพปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และมอบอำนาจตามกฎหมาย เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ 1.การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ 2.การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน และการดำเนินคดีปกครอง รวมทั้งลงนามมอบอำนาจให้พนักงานอัยการดำเนินคดีปกครองกรณีที่มีการฟ้องนายกรัฐมนตรีในการสั่งการตามกฎหมายดังกล่าว 3.การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย และการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายและการดำเนินคดีปกครอง รวมทั้งลงนามมอบอำนาจให้พนักงานอัยการดำเนินคดีปกครองกรณีที่มีการฟ้องนายกรัฐมนตรีในการสั่งการตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2556 เป็นต้นไป