Tag Archive | เกษียณ

วิกฤตครู เกษียณแสน56-60 คปร.คืน20%

ที่มา  :  มติชนออนไลน์    วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 16:14:03 น.

ครู

รายงานข่าวแจ้งว่า  จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  พบว่า จำนวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จะเกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ 2556-2560 มีจำนวน 97,254 คน  มีรายละเอียดดังนี้

ปี 2556 จ ำนวน 10,932 คน  ได้แก่  อันดับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (คศ.) 1 จำนวน 11 คน อันดับ คศ.2 วิทยฐานะชำนาญการ จำนวน 3,929 คน อันดับ คศ.3 วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ จำนวน 6,556 คน อันดับ คศ.4 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 260 คน อันดับ คศ.5 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ 9 คน บุคลากรทางการศึกษาอื่น 38 ค (2) จำนวน 167 คน

ปี 2557 จำนวน 15,541 คน ได้แก่ คศ. 1 จำนวน 6 คน อันดับ คศ.2 วิทยฐานะชำนาญการ จำนวน 5,774 คน อันดับ คศ.3 วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ จำนวน 9,239 คน อันดับ คศ.4 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 275 คน อันดับ คศ.5 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ 10 คน บุคลากรทางการศึกษาอื่น 38ค (2) จำนวน 237 คน

ปี 2558 จำนวน 20,661 คน ได้แก่ คศ.1 จำนวน 23 คน อันดับ คศ.2 วิทยฐานะชำนาญการ จำนวน 7,612 คน อันดับ คศ.3 วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ จำนวน 12,546 คน อันดับ คศ.4 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 206 คน อันดับ คศ.5 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ 10 คน บุคลากรทางการศึกษาอื่น 38 ค(2) จำนวน 264 คน ปี 2559 จำนวน 24,689 คน ได้แก่ คศ.1 จำนวน 28 คน อันดับ คศ.2 วิทยฐานะชำนาญการ จำนวน 9,165 คน อันดับ คศ.3 วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ จำนวน 15,019 คน อันดับ คศ.4 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 174 คน อันดับ คศ.5 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ 5 คน บุคลากรทางการศึกษาอื่น 38 ค (2) จำนวน 298 คน

ปี 2560 จำนวน 25,431 คน ได้แก่ คศ.1 จำนวน 42 คน อันดับ คศ.2 วิทยฐานะชำนาญการ จำนวน 9,057 คน อันดับ คศ.3 วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ จำนวน 15,865 คน อันดับ คศ.4 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 146 คน อันดับ คศ.5 วิทยฐานะเชี่ยวชาญ 2 คน บุคลากรทางการศึกษาอื่น 38ค (2) จำนวน 319 คน

นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)  กล่าวว่า  เรื่องนี้หน่วยผลิตบัณฑิตสายครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ จะต้องมาขอข้อมูลเพื่อผลิตบัณฑิตให้เพียงพอทดแทนกับข้าราชการครูที่จะเกษียณอายุราชการในช่วงปี 2556-2560  ซึ่งจะต้องมาดูว่า จะต้องผลิตบัณฑิตในสาขาอะไรบ้าง  และจะต้องเริ่มวางแผนการผลิตตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 นี้  โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานหรือขอข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหน่วยงานที่ข้าราชการครูเหล่านี้ปฏิบัติงานอยู่ในโรงเรียนสังกัด สพฐ.ก็ไม่สามารถกำหนดอัตรามาทดแทนได้ เพราะตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐ(คปร.) ได้กำหนดให้มีการคืนอัตราเกษียณอายุราชการให้ ศธ.100% จนถึงปี 2556 นี้  และหลังจากนัั้นจะเหลืออัตราคืนให้เพียง 20% ของอัตราเกษียณในแต่ละปี โดยเมื่อพิจารณาตั้งแต่ปี 2557-2560 แล้ว จะได้อัตราเกษียณคืนมาประมาณ 20,000 อัตราเท่านั้น  ฉะนั้น หากไม่มีการวางแผนแล้ว  ก็จะมีปัญหาการขาดแคลนข้าราชการครู อย่างแน่นอน

”หน่วยผลิตสามารถเสนอขอข้อมูลมายัง ก.ค.ศ.เพื่อให้วิเคราะห์รายละเอียดข้าราชการครูที่จะเกษียณอายุราชการช่วงปี 2556-2560 จำแนกตามสาขาวิชาเอกได้ จะได้เป็นประโยชน์ในการผลิตบัณฑิตให้เพียงพอ ในส่วนของ สพฐ.นั้น ก็อาจจะต้องสรรหาครูให้ตรงและเพียงพอกับสาขาที่ขาดแคลน”Ž เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าว

ลดขั้นเงินเดือนครูสูงสุด15ปีไม่รอเกษียณ

t5

ที่มา  :  สยามรัฐ  16  มกราคม 2556

จากการนำเสนอผลการเสวนากลุ่มย่อย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการยุทธศาสตร์การศึกษา พ.ศ.2556-2558 เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาและประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาล เมื่อเร็วๆ นี้

นายดิเรก พรสีมา กรรมการพัฒนาระบบการประเมินการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) กล่าวว่า ข้อเสนอยุทธศาสตร์การปฏิรูปครู โดยยกฐานะครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูงนั้น ในส่วนของสถาบันการผลิต ต้องการให้ ศธ. กำหนดโควตาการผลิตให้สอดคล้องกับจำนวนที่หน่วยงานใช้ครูต้องการ โดยเน้นสอนครูจากการปฏิบัติการสอนในห้องเรียนจริง รวมทั้งควรปลูกฝังครูรุ่นใหม่เรียนรู้โครงการพระราชดำริด้วย ในส่วนของผู้ใช้หรือ สพฐ. และโรงเรียน ก็ควรใช้ครูให้ตรงกับสาขาที่จบ ควรมีกฎหมายกำหนดมาตรฐานครุภัณฑ์ขั้นต่ำของครูแต่ละวิชาเพื่อการสอนที่มีคุณภาพ ทั้งวิชาพลศึกษา ดนตรี การเรือน วิทยาศาสตร์ ด้านเงินเดือนครูนั้น ปัจจุบันบัญชีเงินเดือนครู มีขั้นเงินเดือนย่อยมากถึง 85 ขั้น ควรลดเหลือ25-30 ขั้น เพื่อให้ครูได้รับเงินเดือนขั้นสูงสุดภายใน 15-20 ปี ซึ่งปัจจุบันครูที่ได้รับเงินเดือนขั้นสูงสุด จะได้รับตอนอายุ 59 ปี หรือ 1 ปีก่อนเกษียณ

ด้านนายจุรินทร์ มิลินทสูตร ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม นำเสนอยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาว่า ระดับอุดมศึกษา ที่ประชุมเสนอว่าปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยมากเกินไป ควรมีการควบรวม และผลิตบุคลากรให้ตรงกับที่ตลาดแรงงานต้องการ ด้านอาชีวศึกษา ควรเน้นทวิภาคีให้มากขึ้น และทำความเข้าใจถึงงานสายอาชีพในอนาคตให้เด็กเข้าใจ เช่น ช่างเชื่อม มีบริษัทน้ำมันข้ามชาติต้องการอัตรา และนำไปฝึกเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมท่อส่งน้ำมันในทะเล เงินเดือนกว่า 1 แสนบาท แต่กลับไม่มีผู้เรียนสาขานี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมยังมีข้อเสนอให้มีการตั้งองค์กรกลางขึ้นมาถ่วงดุลอำนาจฝ่ายการเมือง เช่น สถาบันการศึกษาแห่งชาติ เนื่องจากเมื่อมีการเปลี่ยน รมว.ศึกษาธิการ ก็เปลี่ยนนโยบายทำให้งานไม่ต่อเนื่อง

กบข.จ่ายเกษียณ3.3หมื่นคน2.5หมื่นล้าน

ที่มา  :  มติชนออนไลน์   วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 08:28:08 น.

กบข.เผยเริ่มจ่ายเงินคืนสมาชิกเกษียณ 3.3 หมื่นคนในวันที่ 1 ต.ค.นี้ มั่นใจภายใน 7 วันสมาชิกได้รับเงินคืนแน่นอน ชี้ช่องทางการขอรับเงินคืนโดยโอนเงินเข้าบัญชีสมาชิกสะดวกและรวดเร็วที่สุด พร้อมแนะสมาชิกเกษียณออมต่อ เพื่อบริหารเงินออมให้งอกเงย เพียงพอสำหรับใช้จ่ายถึงบั้นปลายชีวิต

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ใน วันที่ 1 ตุลาคมนี้ กบข.จะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินคืนให้สมาชิก กบข.ที่พ้นสมาชิกภาพประมาณ 33,000 คน แบ่งเป็นสมาชิกที่เกษียณอายุราชการจำนวน 15,000 คน เกษียณก่อนกำหนด (Early retire) ประมาณ 18,000 คน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการทหาร และข้าราชการตำรวจ เบื้องต้นคาดว่าปีนี้จะใช้เงินเพื่อจ่ายคืนสมาชิกพ้นสภาพประมาณ 25,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ กบข.จะดำเนินการจ่ายเงินคืนให้สมาชิกภายใน 7 วันทำการหลังจาก กบข.ได้รับเอกสารที่ครบถ้วนถูกต้อง โดยสมาชิกสามารถเลือกวิธีขอรับเงินคืนได้ 3 รูปแบบ ได้แก่

1) โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
2) สั่งจ่ายเช็คขีดค่อม และ
3) ธนาณัติ

อย่างไรก็ดี กบข.แนะนำให้สมาชิกเลือกวิธีโอนเงินเข้าบัญชีของสมาชิกซึ่งจะสะดวกและรวดเร็วที่สุด ขณะที่การขอรับเงินคืนวิธีอื่นนั้นจะมีข้อจำกัดสำหรับสมาชิก เช่น เช็คและธนาณัติสั่งจ่ายจะกำหนดวันหมดอายุ หากสมาชิกไม่นำไปขึ้นเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องติดต่อกลับมายัง กบข.เพื่อขอให้ดำเนินการสั่งจ่ายเงินคืนใหม่ ทำให้สมาชิกได้รับเงินคืนล่าช้าออกไปอีก

นอกจากนี้ ธนาณัติยังมีข้อจำกัดอีกหนึ่งประการคือ สั่งจ่ายเงินคืนให้สมาชิกได้เพียงฉบับละ 50,000 บาท หากยอดเงินจ่ายคืนสมาชิกเกินกว่าจำนวนดังกล่าว ต้องออกธนาณัติหลายฉบับ ที่ผ่านมาสมาชิกหลายรายทำธนาณัติบางฉบับสูญหายก่อนนำไปขอขึ้นเงินต้องกลับมาขอให้ กบข.สั่งจ่ายเงินใหม่อีกครั้ง นอกจากนั้น กบข. ขอความร่วมมือสมาชิกรับรองสำเนาเอกสารประกอบการขอรับเงินคืนด้วยปากกาน้ำเงิน เพื่อความชัดเจนและรวดเร็วในการตรวจสอบเอกสารของสมาชิก

อย่างไรก็ดี สมาชิก กบข. ที่เกษียณและไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน หรือต้องการบริหารเงินออมให้ต่อเนื่อง แนะนำให้สมาชิก “ออมต่อ” กับ กบข. ซึ่งสมาชิกสามารถเลือกได้ว่า จะออมต่อทั้งจำนวน หรือขอรับเงินเป็นรายงวด หรือนำเงินออกไปบางส่วนเพื่อใช้จ่าย และ กบข.จะนำเงินของสมาชิกไปลงทุน เพื่อหาดอกผลให้งอกเงย โดยผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการออมต่อจะได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกมากกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ เพราะดอกเบี้ยเงินฝากจะถูกหักภาษี นอกจาก ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ กบข.บริหารให้ที่ 7% ต่อปียังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเฉลี่ยที่ 3.5%